สัมภาษณ์อาจารย์พนัส ต้องการพานิช (อ.กั๊มฟ์) เกี่ยวกับ Vintage Snare drum
สวัสดีตอนดึกครับ
หัวข้อที่จะมาเขียนในวันนี้ออกจะยาวสักนิดนึง เป็นหัวข้อที่หลายๆคนอาจจะอยากรู้ และเป็นคำถามที่ผมสงสัยมานานแล้ว
ด้วยความที่อาทิตย์ก่อนนั้นผมไปซื้อกลองมาใบหนึ่ง และเจ้าของได้นำ Pearl Jupiter snare ซึ่งเป็นกลองรุ่นเก่าที่มีลักษณะเด่นตรงตัวปลดแส้สแนร์ที่ไม่เหมือนในปัจจุบันมาให้ลองใช้ ปรากฏว่าเสียงนั้นดีมากๆ และแส้นั้นมีความคล้ายๆกับ pearl philharmonic ของผม ทำให้เกิดความสงสัยว่ามีไอเดียคล้ายๆกันหรือไม่
และเมื่อวานนี้ด้วยความว่างของผมได้ปัดเฟสไปเรื่อย
ไปเจอบทความหนึ่งของเพจ Percussion tidbits เกี่ยวกับแส้ของกลองสแนร์
ทำให้ผมระลึกถึงคำถามที่สงสัยมานาน และได้ถามคำถามไปเยอะมากๆ และได้รับเกียรติจาก
อ.กั๊มฟ์ แห่งม.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา
อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มากมายทั้งในด้านกลองชุด เพอคัชชั่น
วงออเคสตร้าและอีกหลายอย่างมาตอบคำถามให้
โดยใช้เวลาคุยกันไปประมาณ
50 นาที
และในวันนี้จะมาเขียนบทสัมภาษณ์จากอ.กั๊มฟ์กันครับ
(คำถามต่อไปนี้เป็นคำถามที่ผมถามไว้ในเพจ)
เชิญอ่านคำถาม-ตอบได้ในรูปภาพประกอบได้เลยครับ
ใครมีความเห็นเสนอแนะสามารถคอมเม้นท์ได้เลยนะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ
คำตอบ:ต้องย้อนกลับไปในสมัยก่อน ที่เริ่มมีกลองสแนร์ขึ้นมา ซึ่งเกิดจากการที่เรานำไส้สัตว์มาขึงกับหนังทำให้เกิดเสียงที่แตกต่าง ทำให้เกิดเป็นกลองสแนร์ หลังจากมีการวิวัฒนาการ พัฒนาขึ้นมาเช่นมีการนำเหล็ก พลาสติก เป็นต้นมาใช้เป็นวัตถุในการสร้างสแนร์ ทำให้เกิดสแนร์ชนิดแบบนี้ขึ้นมา
จะเห็นได้ว่าก็ยังคงไอเดียเดิมไว้คือแส้สแนร์ที่พาดกับหนังกลองเลยออกมา แต่พอพัฒนามาเรื่อยๆ ก็มีสแนร์ที่มีแส้แบบกลองชุดเกิดขึ้นตามมาเพื่อใช้สำหรับเล่นกับกลองชุด
คำตอบ: หาซื้อได้ตามเพจขายกลองมือสอง หรือตามebay ในปัจจุบันตอบได้ว่าหายากมาก เพราะเนื่องจากอายุของกลองนั้นมากแล้ว
(ส่วนของผู้ถาม) ผมได้ไปที่ร้านดนตรี ย่งเส็งมา เพือตามหาแส้ชนิดนี้ ปรากฏว่ายังมีของค้างอยู่ที่ร้านที่ผมเจอคือ Puresound รุ่น Ludwig Supersensitive และ Pearl Free floating
ซึ่งในปัจจุบันนั้น puresound ได้เลิกผลิตแส้ Vintage ไปนานแล้ว ก็จะยังเหลือบางที่ๆยังมีแส้ชนิดนี้ค้างสต็อกร้านอยู่นั่นเอง
คำตอบ: ย้อนกลับไปข้อแรกว่าสแนร์คอนเสิร์ตนั้นมีไอเดียโดยตรงมาจากกลองสมัยก่อนที่ใช้แส้แบบพาดหนังมาเลย ทำให้ได้รับไอเดียในการสร้างกลองสแนร์คอนเสิร์ตในยุคปัจจุบัน
ส่วนบางรุ่นที่มีแส้เดียวและพอดีกับตัวถังนั้น มาจากราคาของกลองชนิดนั้นที่มีราคาถูกกว่าเพราะไม่ได้ใช้วัสดุเยอะ และไอเดียของเสียงของรุ่นนั้นๆ ว่าต้องการให้แส้มีความ sensitive กับกลองขนาดไหนนั่นเอง
คำถามที่ 4 ครับออกจะเชิงประวัติศาสตร์นิดนึง อยากทราบว่าสมัยก่อนที่จะมีกลองสแนร์คอนเสิร์ตหลายแส้นั้น จะมีแค่แส้เดียวใช่ไหมครับ ผมค้นข้อมูลมาอย่างเช่น pearl concert สมัยก่อนจะเป็นแส้ขดลวด และย้อนไปอีกก็จะเป็นแส้เส้นเอ็น อยากถามว่า เสียงต่างจากสแนร์กลองชุดที่มีชนิดแส้เดียวกันอย่างไร?
คำตอบ:กลองสแนร์ทุกรุ่นจะมีความแตกต่างหลักๆอยู่ หลายอย่าง เช่น หนังกลอง แส้ ไม้ตัวถัง ขอบกลอง ทุกอย่างล้วนมีผลหมด เพียงแค่ว่ายี่ห้อนั้นๆ เขาออกแบบมาเพื่อต้องการให้มีเสียงแบบไหน
(ชนิดของแส้ต่างๆ สามารถอ่านได้ในบทความของเพจ Percussion tidbits)
5.ในยุคก่อนที่กลองคอนเสิร์ต3-9แส้จะออกมานั้น กลองสแนร์ที่นิยมใช้ในวงออเคสตร้านั้นคือยี่ห้อ รุ่นอะไร ไม้อะไร กี่ใบ และมีวิธีจูนเสียงอย่างไรให้มีความคมชัด เพราะฟังจาก record ยุคเก่าๆจากหลายที่นั้น เสียงกลองมีความคมชัดพอๆกับกลองคอนเสิร์ตในยุคปัจจุบันมาก
คำตอบ: ขอตอบตรงๆจากประสบการณ์ว่า อย่างสมัยก่อนนี้คือมีอะไรให้ใช้ก็ใช้ แล้วมาจูนหนัง จูนแส้เอาเพื่อให้เสียงเข้ากับวง เข้ากับเพลงที่เราเล่น กลองคอนเสิร์ตใบแรกที่พี่ใช้คือ Pearl Symphonic snare (ตามรูปประกอบ) ซึ่งเอาจริงๆ บางครั้งพี่บอกว่ากลองสแนร์บางใบนั้นก็เสียงดีกว่าสแนร์คอนเสิร์ตเสียอีก โดยพี่อิงตามบทเพลงที่พี่เล่นว่าเสียงกลองใบไหนเข้ากับคาแรคเตอร์ของเพลงมากที่สุด สมัยก่อนนั้นอาจจะใช้สแนร์อย่าง ludwig superphonic หรือ pearl jupiter หรืออื่นๆที่มีแส้ลักษณะแบบนั้นที่ทำให้เสียงนั้นมีความ sensitive ทุกไดนามิค หรืออาจจะใช้กลองที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่ตามคาแรคเตอร์ของเพลงนั้นเองครับ
ข้อสรุปจากตัวผู้เขียน:
กลองสแนร์นั้นมีวิวัฒนาการ มีพัฒนาการไปเยอะมากๆพอสมควร ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถพบเห็นสแนร์ได้ทุกรูปแบบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกลองคอนเสิร์ต กลองชุด กลองมาชชิ่งนั้น ล้วนมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป แต่เราสามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบทเพลงที่เราต้องการจะเล่น ไม่ใช่ว่าหากเราเล่นวงออเคสตร้า ต้องใช้กลองสแนร์คอนเสิร์ตเท่านั้นสุดท้ายแล้วอยู่ที่เราเลือกใช้กลองแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ อยู่ที่ความชอบของเราเป็นหลักโดยมีหลักและเหตุผลที่เหมาะสม เพราะทุกๆคนมีความชอบที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ผมขอขอบคุณมากๆที่สละเวลามาอ่านบทความของเด็กตัวน้อยคนนึงนะครับ ผมพยายามทำให้เพจนี้ไม่เป็นเพียงแค่เพจรับขัดกลองเพียงอย่างเดียว ผมอยากให้เพจนี้มีบทความดีๆ ความรู้รอบตัวต่างๆที่เกิดจากความสงสัยของผมเอง และได้รับคำตอบจากผู้มีประสบการณ์มาร่วมแชร์กัน
ของคุณทุกคนมากๆครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น